ฝ่าวิกฤตด้วยปรัชญาธุรกิจแบบญี่ปุ่น “ริเน็น”

ฝ่าวิกฤตด้วยปรัชญาธุรกิจแบบญี่ปุ่น “ริเน็น”

ญี่ปุ่นมีบริษัทที่ประกอบธุรกิจยาวนานเกิน 100 ปีมากที่สุด จากผลสำรวจบริษัทอายุเกินร้อยปี 5,586 แห่งทั่วโลก กว่า 56% อยู่ที่ญี่ปุ่น  ตั้งแต่องค์กรใหญ่ๆไปจนถึง SME  เล็กๆ แอดฯ ว่าเราทุกคนหลับตาก็นึกภาพออกว่าที่ญี่ปุ่นจะมีธุรกิจเล็กๆ อย่างเช่นร้านราเม็ง ร้านขนม ร้านกระดาษ กระทั่งร้านตัดผมที่มีอายุเกิน 100 ปีหรือ 3 ชั่วอายุคนได้มากมายจริงๆ

“ริเน็น” (Rinen)  ไม่ใช่กฎเกณฑ์นะครับ แต่เป็นแนวคิด..ที่กลายเป็นแนวทางที่องค์กรธุรกิจญี่ปุ่นยึดถือดำเนินตามกันมาด้วยความเชื่อมั่นและช่วยให้หลายๆ ธุรกิจใหญ่น้อยฝ่าวิกฤตครั้งแล้วครั้งเล่ามาได้จนถึงร้อยปี ดร.กฤตินี พงษ์ธนเลิศ จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบจากมหาวิทยาลัยโกเบ เชี่ยวชาญการบริหารธุรกิจในรูปแบบญี่ปุ่น นำแนวคิดนี้มาถ่ายทอดเป็นหนังสือ  “ริเน็น สร้างธุรกิจ100 ปีด้วยหลักคิดแบบญี่ปุ่น”

เท่าที่เคยสัมผัสธุรกิจบาร์เบอร์ในแวดวง Xilda นี้อยู่บ้าง แอดฯ ว่าหลายร้านมีแนวคิดนี้อยู่โดยไม่รู้ตัวเลยแหละ ขอ

อนุญาตสรุปมาเล่าสั้นๆ นะครับ ลองดูสิว่าใกล้เคียงกับร้านของคุณแค่ไหน

  1. แนวคิดแบบ “ริเน็น” ต่างจากการบริหารธุรกิจทั่วไปที่มักจะเอาเรื่องผลกำไรหรือผู้ถือหุ้นมาเป็นอันดับแรก แต่เชื่อว่าถ้าดูแลพนักงานให้ดีเหมือนคนในครอบครัว พนักงานก็จะดูแลลูกค้าด้วยใจ และถ้ามีสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า ก็จะได้เพื่อนคู่คิด ถ้าคืนสิ่งที่ดีสู่สังคม ธุรกิจก็จะเข้าไปอยู่ในใจคนหมู่มาก และเป็นอันดับหนึ่งที่พวกเขาจะนึกถึงเมื่อต้องการซื้อ
  2. จุดตั้งต้นของ “ริเน็น” คือการตั้งคำถามง่ายๆ ว่า “ธุรกิจของเราดำรงอยู่เพื่ออะไร”  และเมื่อได้คำตอบ ทั้งผู้บริหารและพนักงานก็จะยึดมั่นอยู่กับคุณค่านั้นในใจตลอดเวลาในทุกๆ การคิด พูด ทำ และการตัดสินใจแก้ปัญหา โดยไม่เอากำไรเป็นที่ตั้ง เพราะแนวคิดนี้เน้นแสวงหา “ความสุข” มากกว่าผลประโยชน์  โดยที่ความสุขลูกจ้าง คือภารกิจอันดับ 1  ให้ความสุขคู่ค้า คืออันดับ 2 ให้ความสุขลูกค้า คืออันดับ 3 ให้ความสุขกับสังคม คืออันดับ 4และความสุขของเจ้าของและผู้ถือหุ้น คืออันดับสุดท้าย
  3. เพื่อความเข้าใจง่ายๆ “ริเน็น” แบ่งรูปแบบการทำธุรกิจเป็น 2 ประเภท คือแบบต้นสน และแบบต้นไผ่ครับ
    • ธุรกิจแบบต้นไผ่ เน้นการเติบโตรวดเร็ว เพราะต้นไผ่ใช้เวลาเติบโตเร็ว บางต้นอาจสูงเกือบเมตรโดยใช้เวลาแค่ข้ามคืน ต้นไผ่มีอายุเฉลี่ย 5–15 ปี การทำธุรกิจแบบต้นไผ่จึงเน้นไปที่การเติบโต ยึดที่ตัวเลขผลประกอบการเป็นหลัก  ธุรกิจเหล่านี้จะมุ่งเน้นไปที่โอกาสหรือกำไรเป็นหลัก
    • ธุรกิจแบบต้นสน ใช้เวลาเติบโตยาวนาน ค่อยๆเป็นค่อยๆไป แต่ต้นสนมีชีวิตยืนยาวได้หลายพันปี เปรียบได้กับธุรกิจแบบต้นสน สามารถยืนยาวได้มากกว่า 50 ปี บางบริษัทมากกว่า 100 ปี
  4. การทำธุรกิจแบบต้นสนจะให้ความสำคัญกับลูกค้า พนักงาน คู่ค้า ตลอดจนสังคมที่เกี่ยวข้อง 
    • มักจะคิดว่า ในธุรกิจที่ทำอยู่นี้ ทำเพราะอยากให้ใครมีความสุข หรือ จะช่วยเหลือผู้อื่นได้อย่างไร
    • เกิดเป็นความสุขที่เกิดจากจากคุณค่าในการทำงานที่พนักงานภูมิใจ ไม่ใช่แค่ค่าตอบแทน ซึ่งผู้บริหารก็จะใช้ย้ำเตือนพนักงานเสมอๆ ว่าสินค้าหรือบริการของเรามีประโยชน์ต่อผู้คนและสังคมอย่างไร
    • มุ่งเน้นไปที่ความสุขของพนักงาน ให้ได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ดี มีเพื่อนร่วมงานที่ดี มีสวัสดิการที่ดี พนักงานก็มีกำลังใจในการทำงาน และพร้อมที่จะทุ่มเทให้แก่บริษัท หรือฝ่าวิกฤตไปด้วยกัน เมื่อผู้บริหารจำเป็นต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ จะคำนึงถึงพนักงานมาก่อนเสมอ เช่น ตัดสินใจซื้อเครื่องจักรในกระบวนการผลิตที่ราคาสูงเพื่อแลกกับเครื่องจักรที่มีความปลอดภัยมากกว่าสำหรับพนักงาน
    • เลือกคู่ค้าเสมือนเลือกคู่แต่งงาน สร้างความเจริญเติบโตไปด้วยกัน ไม่เปลี่ยนไปเจ้าอื่นถ้าเจอว่าเสนอราคาที่ถูกกว่า หรือขอลดราคาโดยเปรียบเทียบกับเจ้าอื่น แต่จะช่วยคู่ค้าในด้านการพัฒนาคุณภาพไปด้วยกัน
    • บริษัทแบบต้นสนจะมุ่งมั่นในการสร้างความสุขให้แก่ลูกค้า หลายๆ ครั้งความมุ่งมั่นเพื่อปรับปรุงและแก้ไขจนทำให้ลูกค้ามีความสุขได้ก็เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ จากการแก้ปัญหา
  5. ใครอยากลองสร้าง “ริเน็น” ง่ายๆ เริ่มจากตอบคำถามสำคัญ 3 ข้อที่เจ้าของต้องตอบตนเองและลูกน้องได้ คือ
    • เราเห็นลูกค้ามีความสุขครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ และเหตุผลอะไร
    • อะไรคือสิ่งที่เรายึดมั่นและเชื่อมั่นในการทำธุรกิจ
    • อะไรคือความภูมิใจในองค์กรที่อยากบอกพนักงาน

แล้ว “ริเน็น” ที่ชัดเจนจะช่วยคัดเลือกคนแบบเดียวกัน จริตคล้ายกันเข้ามาทำงานด้วยกัน ซึ่งก็ทำให้ได้พนักงานที่สามัคคีกลมเกลียว และพร้อมที่จะฝ่าวิกฤตไปกับร้าน และ “ริเน็น” ที่จะชัดเจนก็จะดึงดูดลูกค้าที่ชื่นชอบในตัวตนของร้าน ซึ่งก็จะเป็นลูกค้าที่ยั่งยืนและพร้อมจะสนับสนุนเราในทุกโอกาส และช่วยเหลือเราในทุกวิกฤตเช่นกันครับ

แอดฯ ว่า พออ่านจบแล้ว คุณอาจพบว่าร้านคุณใช้แนวคิด “ริเน็น” อยู่แล้วก็เป็นได้ เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก https://www.powersmethai.com ด้วยครับ

@wearexilda
#xilda
#xildahairclipper
#xildathemasterofblade
#xildathailand
#ซิลด้า
#sereechaibeauty